คัมภีร์ถ่ายมอเตอร์โชว์

คัมภีร์ถ่ายพริตตี้

เว็บนี้เล่าให้ฟังจากประสบการณ์ ที่ไปถ่ายมอเตอร์โชว์ และมอเตอร์เอ็กซ์โปมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ไปทุกครั้ง ไปครั้งละหลาย ๆ วัน ได้ทั้งภาพสวย ภาพห่วย ภาพระดับเทพ (ภาพรถได้น้อยมากๆ) จนจับทางได้ถูก (หลายปีอยู่) เลยอยากเขียนเล่าเทคนิค และประสบการณ์ให้อ่านกันเล่น ๆ นะครับ

ประสบการณ์ผมนะครับ มีทั้งปรับผิด ลืมโน่น ลืมนี่ สารพัด แต่ทำไปทำมาอยู่หลายปี ตอนนี้จับหลักได้แล้ว เลยถ่ายได้ภาพที่น่าพอใจตลอด โอกาสนี้เลยอยากนำภาพต่าง ๆ มาแสดง และถ่ายทอดประสบการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ในเว็บของผมนี่ เผื่อน้อง ๆ มือใหม่ ๆ จะได้นำหลักการบางอย่างไปประยุกต์ใช้ในการถ่ายพริตตี้บ้าง ส่วนมือเก่า ๆ ก็คงมีเทคนิคเยอะแล้ว อาจเข้ามาดูเพื่อความบันเทิงเฉย ๆ แล้วกันนะครับ

ก่อนอื่น ผมขอทบทวนสูตรการถ่ายภาพให้สวยของผมก่อนนะครับ การที่จะถ่ายภาพสวย มีสูตร (ที่ผมคิดขึ้นเอง) ดังนี้นะครับ

แบบดี มีชัยไปกว่าครึ่ง - เนื่องจากการถ่ายพริตตี้ คือการถ่ายภาพคนสวย ๆ ดังนั้นจึงเป็นการยาก ที่จะถ่ายออกมาแล้วน่าเกลียด ดังนั้น นักถ่ายภาพมือใหม่ ๆ จึงนิยมไปถ่ายตามงานที่มีพริตตี้มาก ๆ ซึ่งในงานมอเตอร์โชว์ หรือมอเตอร์เอ็กซ์โปนั้น เป็นแหล่งรวมของสาวสวยมากมาย รวมทั้งค่ายรถต่าง ๆ ก็งัดกลยุทธ์ในการตกแต่งบูธอย่างเต็มที่ ดังนั้นการที่จะได้ภาพสวยนั้น ถือได้ว่าง่ายมาก ๆ เลยครับ คราวนี้ภาพของเราจะสวยมาก หรือสวยน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยข้อต่าง ๆ เพิ่มเติมแล้วครับ ถ้าอยากได้ภาพสวยมาก ต้องศึกษาและเรียนรู้มากกว่าคนอื่นนิดหน่อย

อุปกรณ์ เลือกให้ถูก จะถ่ายอะไร เตรียมกล้อง+เลนส์ให้ถูกชนิด เช่น ถ้าเน้นถ่ายพริตตี้ ก็ต้องเตรียมเลนส์เทพ แฟลชแยก หรือแม้กระทั่งถ้วยมาม่าใส่แฟลชแยก หรือ Gary Fong Lightsphere

มุมแสง ทิศทางแสง ต้องลงตัวเหมาะสม เนื่องจากแสงมาจากหลายทิศทางมาก จึงถ่ายได้เกือบทุกแนว ไม่ว่าจะตามแสง ทำโบเก้ ย้อนแสงจากไฟสป็อตไลท์ ที่มีมากมายในงาน หากแสงที่มีอยู่แล้วในงานไม่เป็นอย่างที่ต้องการ อาจต้องเตรียมแหล่งกำเนิดแสงของเราไปเองโดยเฉพาะ แต่ก็จะทำให้เดินไม่ค่อยสะดวก เนื่องจากอุปกรณ์เยอะขึ้น

องค์ประกอบภาพ จัดให้สวยงาม ดูตามสิ่งแวดล้อม อาจถ่ายแบบครึ่งตัว เต็มตัว ยืนคู่กับรถ จับมอเตอร์ไซค์อยู่ แล้วแต่ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคนเลย พริตตี้บางคนเหมาะกับการถ่ายไกล ๆ บางคนเหมาะกับการถ่ายครึ่งตัว บางคนหน้าสวยเฉย ๆ เราต้องแยกแยกให้ออกว่า พริตตี้แต่ละคน เค้ามีจุดเด่นที่ไหน หน้าตา หุ่น หรือว่ารอยยิ้ม

คราวนี้มาพูดถึงเรื่องอุปกรณ์ก่อน ว่าควรใช้อะไรดีนะครับ อันนี้จุดประสงค์ก็ทราบอยู่แล้ว ว่าจะไปถ่ายอะไร ดังนั้น ผมขอแยกดังนี้เลยครับ

ในกรณีที่แบกไหว เอาไปให้หมด (ถ้ามีคนช่วยแบก เอาระบบแฟลชแยกไปด้วย) เคยเห็นเพื่อนบางคน แบกเป้ไว้ข้างหลัง ในเป้มีเลนส์เทพ 3-4 ตัว แต่ด้วยความแข็งแรง สามารถแบกน้ำหนักประมาณนี้ได้ 3-4 ชั่วโมงสบาย ๆ

ในกรณีที่แบกไม่ไหว หรือแรงไม่ค่อยมี ให้เตรียมเลนส์เทเลโฟโต้ ถ้าจะให้ดี ก็เอาเลนส์ 85 f/1.2L, 85 f/1.4L หรือ 85 f/1.8 ใช้ได้หมด, 135 f/2L เลนส์ตัวนี้ถ่ายได้สวยมาก ๆ แถมราคาไม่แพงเวอร์ด้วย หรือจะเป็น 70-200 พร้อมแฟลช และถ้วยมาม่า (Gary Fong Flash Diffuser) เลนส์ 85 และ 135 จะเหมาะมากกับพริตตี้ที่สวย ๆ มาก ๆ จะช่วยขับให้สวยเพิ่มขึ้นไปอีก ถึงขั้นสวยระดับเทพทีเดียว ส่วนเลนส์ 70-200 ไม่ว่าจะเป็น f/4 หรือ f/2.8 ก็ทำได้ดีมาก ๆ แต่ด้วยน้ำหนักที่มาก อาจทำให้คนถ่ายถือได้ไม่นาน เพราะถ้าต้องการภาพระดับเทพจริง ๆ ต้องมีแฟลชและถ้วยมาม่าอีก

เคล็ดลับที่รวบรวมได้จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองนะครับ ไม่รู้ว่าเหมือนของคนอื่นหรือเปล่า

หลักการ สำหรับพริตตี้ที่หน้าตาสวย แต่หุ่นปกติ หรือเฉย ๆ:

ให้ถ่ายครึ่งตัว เน้นหน้า โฟกัสที่ตา เอาให้คมสุด ๆ ไปเลย

ใช้เลนส์ระยะเทเลโฟโต้ ละลายฉากหลัง (เบลอฉากหลัง) เช่น เลนส์ 85, 135, 70-200

ทำโบเก้ จากสปอตไลท์ข้างหลัง โดยการจัดให้สป็อตไลท์ด้านหลังเรียงเป็นระเบียบ ไม่ซ้อนทับกันมั่ว ๆ เวลาได้โบเก้จะได้ออกมาสวยงาม สบายตา

ปรับค่า f กว้าง ๆ (ตัวเลขน้อย ๆ เช่น f/1.4, f/2.0 เป็นต้น) แต่ถ้ารู้ว่าสวีตสป็อตของเลนส์อยู่ที่ไหน ก็ให้ใช้ค่านั้น

ใช้ถ้วยมาม่า ยิงแฟลชขึ้นฟ้า ทำแววตา หน้าตาและสีสันของภาพ จะสวยขึ้นเยอะเมื่อใช้แฟลชที่สวมถ้วยมาม่า (ชื่อเต็ม ๆ คือ Gary Fong Flash Diffuser แต่ช่างภาพคนไทยนิยมเรียกว่าถ้วยมาม่า เพราะรูปร่างเหมือนถ้วยที่เอาไว้กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ขายกันตามห้าง)

หลักการ สำหรับพริตตี้ที่หน้าตาปกติ แต่หุ่นสวย:

ถ่ายเต็มตัว พร้อมรถ หาฉากประกอบอื่น ๆ

อย่าเน้นหน้า (ใบหน้า) พริตตี้มาก เพราะถ้าหุ่นสวย ต้องเน้นหุ่น

ใช้เลนส์ระยะนอร์มัล หรือไวด์แองเกิล เช่น เลนส์ 35 f1/.4 หรือ 16-35, 17-40, 10-22 เป็นต้น

ปรับค่า f กลาง ๆ ปรับภาพให้สีสดขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย เพราะดึงดูดความสนใจ ถ้าสามารถถ่ายคู่กับรถยนต์สีสด ๆ ยิ่งดีใหญ่

พยายามจัดองค์ประกอบภาพให้ดูน่าสนใจ (อันนี้หามุมยากนะครับ ต้องค่อย ๆ บรรจง) แล้วแต่สถานการณ์และจังหวะเฉพาะหน้า ต้องใช้ประสบการณ์ส่วนตัว วิธีการฝึกนะครับ ให้ไปงานพวกนี้บ่อย ๆ แล้วจะค่อย ๆ พัฒนามุมมองและจังหวะเอง

หลักการ สำหรับพริตตี้ที่สวยเพอร์เฟกต์ ทั้งหุ่นและหน้าตา:

ยืนอยู่ตรงนั้นเลย ไม่ต้องเดินไปไหนแล้ว . . . .ถ่ายทุกมุม หลาย ๆ แบบ

เอาเลนส์ไปกี่ตัว ใช้ให้หมด สลับใช้ทีละชุด ทั้งเลนส์ 85, 135, 35, 24 คือหยิบมาใช้ให้ครบทุกเลนส์ แล้วก็เปลี่ยนสถานที่ยืนของเราไปเรื่อย ๆ ลำดับการเรียงเลนส์ ก็ให้ใช้เลนส์ที่ดีที่สุดที่เรามีก่อน ค่อย ๆ ไล่ไปจนถึงเลนส์ที่ถ่ายสวยน้อยที่สุด เพราะว่าบางที พริตตี้ที่สวยมาก ๆ อาจยืนอยู่ให้ถ่ายไม่กี่นาที จากนั้นก็จะเข้าไปพักข้างในแล้วครับ . . . .

มีเทคนิคอะไร ใช้ให้หมด ทั้งการละลายฉากหลัง การทำโบเก้ การถ่ายเต็มตัว ครึ่งตัว ถ่ายพร้อมกับรถ ถ่ายในขณะที่ทำท่าต่าง ๆ

ไม่ต้องเดินไปไหนแล้ว สังเกตง่าย ๆ บริเวณนั้นคนจะยืนเบียดกันแน่นมาก อย่างเช่น น้องสต๊อป คือสวย Perfect จนคนเดินผ่านไปผ่านมา ต้องสต๊อป (หยุด) อยู่ตรงนั้น ไม่ต้องไปไหนต่อละ อะไรอย่างนี้เป็นต้น ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วชื่อ สต๊อป ได้มาจากเรื่องนี้หรือเปล่า เห็นเพื่อนในวงการถ่ายภาพเค้าคุยให้ฟังอีกที ผมเองก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ . . .

ช่วงเวลาตรงนี้อาจมีเพียง 10 นาทีนะครับ เพราะพริตตี้จะออกมาเป็นรอบ ๆ ไม่ได้ยืนอยู่อย่างนั้นตลอดนะครับ ดังนั้นก็กะเวลาเผื่อ ๆ สำหรับการถ่ายหลาย ๆ แบบให้พอเหมาะด้วยครับ

เทคนิคในการสร้างภาพให้แตกต่าง

หากต้องการภาพที่มีลักษณะแตกต่างจากผู้อื่น เราก็ต้องใช้เทคนิค และหาอุปกรณ์ที่แตกต่างจากผู้อื่นไปด้วยนะครับ จากประสบการณ์ของผมเท่าที่เคยใช้ และเคยเห็นมา เป็นดังนี้

การใช้แฟลชแยก สำหรับตัวผมจะให้เพื่อนช่วยถือแฟลชแยกให้นะครับ (ต้องหาเพื่อนไปด้วยซักคน) แต่หากไปคนเดียว อาจใช้วิธีนำแฟลชแยกเสียบไว้บนขาตั้ง และนำไปวางตามจุดที่ต้องการ ลักษณะเช่นนี้ จะทำให้ได้แสงที่มีทิศทางแสงมาจากแหล่งกำเนิดแสงที่ควบคุมได้ ทำให้ภาพที่ได้มีความแตกต่างจากภาพของคนอื่น

การใช้แฟลชแยก พร้อมตัวส่งสัญญาณไร้สายในการถ่ายพริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์

ในภาพคือการใช้แฟลชแยกเสียบไว้บนขาตั้ง (แนะนำให้ใช้แบบที่เบาที่สุด) และติดตัวส่งสัญญาณไร้สาย ไม่ว่าจะเป็น ST-E2, ST-E3 หรือรุ่นที่ควบคุมด้วยสัญญาณวิทยุ ซึ่งมียี่ห้อต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย เพื่อทริกเกอร์ให้แฟลชแยกทำงาน ในการจัดแสง เราสามารถจัดแสงแบบ Rembrandt ก็ได้ ซึ่งช่างภาพคนอื่น ๆ ที่ติดแฟลชไว้บนฮ็อตชูที่หัวกล้อง จะไม่สามารถจัดแสงในลักษณะดังกล่าวได้

หวังว่าผู้ที่อ่านมาถึงตรงนี้ คงได้แนวคิด และเทคนิคไปบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ นะครับ ไปมอเตอร์โชว์คราวหน้า เจอกันก็อย่าลืมทักกันได้นะครับ สวัสดีครับ . . . ลองดูกันนะครับ

สำหรับตัวผมเอง เวลาไปมอเตอร์โชว์ จะพกเลนส์ไม่มาก (หนักมาก ถือไม่ไหว และไม่คล่องตัว) พร้อมกับแฟลชและถ้วยมาม่า (ขาดไม่ได้เลย) และใช้วิธีการไปหลาย ๆ วันครับ

ในวันสุดท้าย หลังจากที่ถ่ายพริตตี้ครบแล้ว ก็จะเตรียมเลนส์สำหรับถ่ายรถยนต์ และจักรยานยนต์เพื่อเน้นถ่ายรถและมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นเลนส์คนละชุดกับเลนส์ถ่ายพริตตี้ . . . .

ท้ายที่สุด ใครชอบชมภาพพริตตี้ ลองมาเข้ากลุ่มพริตตี้มอเตอร์โชว์ก็ได้นะครับ ที่นี่ครับ

พริตตี้มอเตอร์โชว์

ในเพจของผม มีแนะนำการถ่ายภาพบุคคล การทำโบเก้ การถ่ายชัดตื้นชัดลึก การใช้แฟลชแยก การใช้รีเฟล็กซ์ การใช้เจลสี การถ่ายในสตูดิโอ การย้อนแสง และเทคนิคอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าใครติดตามอ่านมาเรื่อย ๆ ป่านนี้คงจะปรับกล้องเก่งกันทุกคนแล้วนะครับ . . . . ส่วนใครยังปรับกล้องไม่เก่ง หรือคุมกล้องยังไม่อยู่ ให้ลองอ่านทบทวนในบทความเก่า ๆ ของผมนะครับ มีเขียนไว้ทุกเรื่องเกี่ยวกับการถ่ายภาพ การปรับค่ากล้อง การตั้งค่ากล้อง โดยดูได้ที่ www.suaythep.com (บล็อก) หรือ web.suaythep.com (เว็บ) หรือ vdo.suaythep.com