การถ่ายย้อนแสง

ทำไมเราต้องถ่ายภาพย้อนแสง . . . ถ่ายตามแสงสวยกว่าไม่ใช่เหรอ หน้าไม่ดำ


สมัยก่อนนี้ เราเคยได้ยินแต่คนสอนว่า "อย่าถ่ายย้อนแสง" หรือ "ย้อนแสงแล้วหน้ามืด" . . . อันนี้เป็นความจริงหรือไม่ . . .

ในระยะ 20 ปีให้หลังที่ผ่านมานี้ ตั้งแต่ผมมาเล่นกล้องและถ่ายภาพอย่างจริงจังแล้ว กลับพบว่า ภาพที่สวย ๆ น่าสนใจของเรา ส่วนมากกลับมาจากการถ่ายย้อนแสงแทบทั้งนั้นเลย!!!

ก่อนที่จะแนะนำวิธีการถ่ายย้อนแสง จะพูดถึงข้อดีของศาสตร์แห่งการย้อนแสงเสียก่อน โดยที่ภาพแสงนุ่ม ๆ ธรรมดา ไม่ย้อนแสง ถ้าจัดองค์ประกอบไม่ดี สังเกตว่า สีผมจะจมหายไปเลย คำว่า "จม" หรือ "ภาพจม" แปลว่าผมของตัวแบบนั้น ถูกกลืนไปกับฉากหลัง แล้วทำให้ไม่โดดเด่นครับ

ส่วนภาพย้อนแสงอาทิตย์ หรือแสงแฟลช (โดยการนำแฟลชไปไว้ข้างหลัง) ผมจะเป็นสีทอง เปล่งประกายงดงามอย่างยิ่ง

คราวนี้ เราจะมาคุยกันถึงข้อดีของการถ่ายภาพย้อนแสงครับ อย่างแรกก็คือ ทำให้เกิดริมไลท์ (ประกายตัดขอบ) ที่ผม หรือที่แขน ถ้าถ่ายดีๆ อาจชัดจนเห็นเส้นขนที่แขนหรือที่หน้าเลยนะครับ . . อย่างที่สองทำประกายตาได้ (ใช้รีเฟลกเตอร์ หรือแฟลชเพื่อยิงขึ้นฟ้าผ่านแผ่นสะท้อน) ทำให้ตาของตัวแบบนั้นมีจุดสีขาว ดูแล้วมีชีวิตชีวาเพื่อขึ้นมากทีเดียว

อย่างที่สามคือ การถ่ายย้อนแสง ทำให้เกิดโบเก้ (Bokeh) ได้อย่างสวยงาม ทำให้ภาพเรา ดูแตกต่างจากคนอื่น ที่ส่วนมากมักจะถ่ายตามแสงอาทิตย์ อย่างต่อมาคือ สามารถเล่นแสงเงาบนใบหน้าได้ (เลือกมุมเอา) บางมุม อาจทำให้เกิดแฟลร์ (ซึ่งบางทีฟลุ้ค ๆ ก็ได้ภาพที่เก๋ไปอีกแบบ)

ข้อดีอีกอย่างคือ สร้างริมไลท์ (แสงขอบ) ที่เส้นผม ทำให้ผมแลดูเป็นสีทอง สวยงาม ไม่จมหายไปกับฉากหลัง เวลานำภาพไปโชว์เพื่อน คนอื่นจะชมว่าภาพสวย

เวลาที่เหมาะสมในการถ่ายภาพย้อนแสง และลักษณะการถ่ายที่เหมาะสม

ช่วงเช้า ๆ - ช่วงเย็น ๆ ---- เหมาะกับการถ่ายภาพคน หรือถ่าย Portrait

ช่วงดวงอาทิตย์ใกล้ตก หรือลับขอบฟ้าไปแล้วนิดหน่อย ---- ถ่ายซิลลูเอ็ต (Silhouette คำนี้ไม่ออกเสียงตัว H ครับ) หรือถ่าย HDR (High Dynamic Range) ซึ่งก็คือภาพที่เก็บได้ทั้งแสงสีของท้องฟ้า และแสงของฉากหน้า

สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับการถ่ายย้อนแสง

- ถ้าใช้ f แคบ ๆ (หรือหมุน f ไปที่ตัวเลขมาก ๆ เช่น f 22) จะเกิดแสงแฉก

- ถ้าใช้ f กว้าง ๆ (หรือหมุน f ไปที่ตัวเลขน้อย ๆ เช่น f 1.4, 1.8) จะเกิดโบเก้ (ต้องให้แสงทะลุใบไม้เข้ามาหาเลนส์กล้อง) โบเก้จะกลม หรือเป็นเหลี่ยม ๆ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเปิดรูรับแสงที่เท่าไหร่

วิธีการถ่ายย้อนแสง

ถ้าเราถ่ายย้อนแสงแบบกดชัตเตอร์ลูกเดียว ไม่ได้ปรับค่ากล้องอะไรเลย รับรองได้เลยครับ ภาพเรามีโอกาสสวยยากครับ ดังนั้นการย้อนแสง ต้องมีศิลป์ในการย้อนแสงด้วย โดยที่ผมจะค่อย ๆ เขียนอธิบายไปเรื่อย ๆ นะครับ อาจยาวหน่อย . . .

หากถ่ายภาพคน (Portrait) โดยย้อนแสงในช่วงเช้า ช่วงเย็น หรือช่วงที่มีแสงอาทิตย์ ให้ใช้รีเฟลกเตอร์ หรือแฟลชก็ได้ (แต่ถ้าใช้รีเฟลกเตอร์หรือแผ่นสะท้อนแสง ภาพจะออกมาสวยกว่า) ไม่ว่าจะเป็นรีเฟลกเตอร์จริง ๆ (ซึ่งต้องให้อีกคนช่วยถือ หรือแขวนบนอะไรซักอย่าง) หรือรีเฟลกเตอร์ธรรมชาติ (หาเอาแถวนั้น โดยอาจเป็นผนังสีขาว ๆ หรืออะไรที่สะท้อนแสงแถวนั้นก็ได้) หรือแม้แต่ใช้ตัวเราเองเป็นรีเฟลกเตอร์ (โดยการใส่เสื้อสีขาว) ก็สามารถที่จะทำได้นะครับ สังเกตไหมครับว่า ช่างภาพส่วนใหญ่ มักจะใส่เสื้อสีขาว 5 5 5 เพื่อใช้เป็นรีเฟล็กเตอร์ธรรมชาตินั่นเอง

การถ่ายในลักษณะนี้ บริเวณลูกตาดำของตัวแบบ จะมีประกายสีขาวติดมาด้วย และใบหน้าของตัวแบบก็จะไม่มืด ทำให้เราได้ภาพที่แตกต่างจากภาพที่กดชัตเตอร์มั่ว ๆ และภาพที่ได้จะออกมาสวยงามเป็นพิเศษ

ส่วนในกรณีที่ไม่สามารถใช้รีเฟล็กเตอร์ได้ ที่จำเป็นต้องใช้แฟลช ก็ให้ยิงแฟลชในลักษณะที่เป็นการฟิลแฟลชเบา ๆ ไม่ต้องยิงแรงนะครับ (ถ้ายิงแรง เดี๋ยวหน้าขาววอก ซึ่งนางแบบไม่ชอบ ดีไม่ดีอาจโดนตำหนิได้) หรือทางที่ดี ให้ยิงแฟลชสะท้อนกับอะไรซักอย่างก่อน แล้วค่อยชิ่งเข้าหาหน้านางแบบอีกที จะดีที่สุด

ถ้าหลังตัวแบบหรือคนที่เราจะถ่ายนั้นมีต้นไม้ (ที่มีใบเยอะ ๆ) แล้วแสงอาทิตย์ลอดเข้ามาตามรูของใบไม้และกิ่งไม้ ให้หาบริเวณที่แสงลอดเข้ามาเป็นลำเล็ก ๆ แล้วให้เปิดรูรับแสงกว้างสุดเลย หมายถึงหมุนค่า f ให้เป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดเลย เท่าที่จะสามารถหมุนได้ (เพื่อที่เราจะทำโบเก้กลม ๆ) แล้วถ่ายย้อนแสง โดยให้ด้านหลังตัวแบบเป็นแสงที่ลอดช่องใบไม้พุ่งตรงเข้ามายังกล้องของเรา เพียงเท่านี้ เราก็จะได้โบเก้สวย ๆ แล้ว ส่วนการใช้รีเฟลกเตอร์ จะทำแบบข้อ 1 ก็ได้ หรือจะปรับกล้องเป็นโหมดแมนนวล (โหมด M) แล้วใช้ระบบวัดแสงเฉพาะจุด แล้วล็อคค่าแสงที่ใบหน้าตัวแบบเลยก็ได้ ในกรณีนี้ ไม่ต้องใช้รีเฟล็กเตอร์ก็ได้ ภาพที่ออกมา นางแบบก็จะหน้าไม่ดำ ไม่มืดแล้ว (แต่ตาไม่มีประกาย) ผมแนะนำว่า ถ้าทำได้ ให้ใช้รีเฟล็กเตอร์ หรือแฟลช (ใช้วิธีการชิ่งแฟลช) จะดีกว่ามาก

เรื่องของการใช้แฟลชในการถ่ายภาพ เป็นศิลปะ หรือเทคนิคการถ่ายที่ยาวมาก มีการใช้ลูกเล่น และเทคนิคมากมาย จนผมต้องทำเป็นอีกหลายหัวข้อเลย เกี่ยวกับการใช้แฟลช ให้ภาพออกมาสวยในอีกระดับหนึ่งครับ ยังไงก็สามารถติดตามกันได้ที่เว็บไซต์ของผมครับ http://web.suaythep.com/

หากเป็นการถ่ายโดยให้ดวงอาทิตย์อยู่หลังตัวแบบตรง ๆ หรือดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งประมาณ 30 - 45 องศา จะทำให้เห็นไรขนที่คอ หรือที่แขนชัดเจนเป็นสีทอง ซึ่งปกติการถ่ายตามแสงจะไม่สามารถทำเอฟเฟ็กต์นี้ได้ ก็ต้องพิจารณาดูว่า การใช้เอฟเฟ็กต์นี้จะทำให้สวยขึ้น หรือน่าเกลียดขึ้น อันนี้แล้วแต่ความชอบ แล้วก็แล้วแต่สถานการณ์ด้วยครับ บางคนชอบให้ขนเกลี้ยง ๆ ส่วนบางคนถ้าเราถ่ายภาพให้เห็นไรขน เขาจะชอบมาก

ในกรณีที่ถ่ายวิว ขณะที่ดวงอาทิตย์เกือบลับขอบฟ้าแล้ว การใช้ f แคบ ๆ ก็จะทำให้ดวงอาทิตย์กลายเป็นแสงแฉกได้อย่างสวยงาม โดยที่ไม่ต้องใช้ฟิลเตอร์อะไรพิเศษช่วย สำหรับการถ่ายช่วงเวลานี้ นับเป็นนาทีทองของนักถ่ายภาพเลยก็ว่าได้ เพราะท้องฟ้าจะสวยที่สุด สามารถเล่นเทคนิคได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพแนวซิลลูเอ็ต (ภาพเงาดำ) ภาพ HDR (High Dynamic Range) ซึ่งถ่ายภาพตั้งแต่ 3 ภาพขึ้นไป แล้วนำมารวมกันด้วยซอฟต์แวร์ในคอมพิวเตอร์ หรือจะเป็นการเปลี่ยนสีท้องฟ้าด้วยการใช้เจลสี "Color Gel" คู่กับแฟลช

แสงแฉกจากแฟลช

เวลาถ่ายภาพย้อนแสงในช่วงดวงอาทิตย์ใกล้ตก หรือใกล้ลับขอบฟ้า (นั่นก็คือ ไม่มีแสงจากดวงอาทิตย์มาสะท้อนรีเฟลกเตอร์) ก็ให้ใช้แฟลชแทน โดยการตั้งค่ากล้องโดยเก็บแสงฉากหลังที่เป็นท้องฟ้าสีสวย ๆ จากนั้นใช้แฟลชยิงเข้าใส่ตัวแบบ โดยปรับความแรง-เบาของแฟลชตามความเหมาะสม (คอยติดตามเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง จะมีการอธิบายอย่างละเอียดสุด ๆ เพราะทำได้หลายวิธีมาก แต่ถ้าเข้าใจแล้ว เรื่องนี้ไม่ยากครับ)

ยังไงช่วงหลัง ๆ นี่ผมชอบถ่ายภาพย้อนแสงเยอะมาก เดี๋ยวจะมาเขียนเล่าประสบการณ์ให้ฟังนะครับ ทั้งการย้อนแสงจากดวงอาทิตย์ การสร้างแสงย้อนขึ้นมาเองจากแสงประดิษฐ์ หรือแฟลช เดี๋ยวค่อย ๆ เขียนไปเรื่อย ๆ ครับ

หมายเหตุ ** สิ่งที่ต้องระวังอย่างยิ่ง ** #ระวังตาบอด

ขณะที่ถ่ายภาพ หรือหันกล้องเข้าหาดวงอาทิตย์ตรง ๆ ขณะแสงแรง ห้ามใช้ตามอง "เด็ดขาด" ตาอาจจะบอดได้ ต้องดูบนหน้าจอ LCD เท่านั้น ให้เปิด Live View แล้วจัดองค์ประกอบ ทำทุกอย่างจากบนหน้าจอ เหมือนกับที่ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพครับ

ผมเคยอธิบายการปรับค่ากล้องต่าง ๆ ไปมากแล้ว ทั้งการถ่ายภาพบุคคล การทำโบเก้ การถ่ายชัดตื้นชัดลึก การใช้แฟลชแยก การใช้รีเฟล็กซ์ การใช้เจลสี การถ่ายในสตูดิโอ การย้อนแสง . . . และเทคนิคอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าใครติดตามอ่านมาเรื่อย ๆ ป่านนี้นะจะปรับกล้องเก่งกันทุกคนแล้วนะครับ ส่วนใครยังปรับกล้องไม่เก่ง หรือคุมกล้องยังไม่อยู่ ให้ลองอ่านทบทวนในบล็อกเก่า ๆ ของผมนะครับ มีเขียนไว้ทุกเรื่องเกี่ยวกับการถ่ายภาพ การปรับค่ากล้อง โดยดูได้ที่ www.suaythep.com (บล็อก) หรือ web.suaythep.com (เว็บ) หรือ vdo.suaythep.com